คาปูเล็ต
จูเลียต (
ญี่ปุ่น: ジュリエット
โรมาจิ:
Juliet)สายเลือดสุดท้ายแห่งตระกูลคาปูเล็ต ชื่อเต็มคือ จูเลียต เฟียมมาตตา อาส เดอ คาปูเล็ต(Juliet Fiammatta Asu de Capulet) ใช้ชีวิตในฐานะเด็กชายที่ชื่อ โอดิน มาตลอดเพื่อหนีจากการตามล่าของมองตากิว นอกจากนี้ยังมีฝีมือดาบเป็นเลิศ จึงช่วยเหลือผู้คนที่ถูกข่มเหงภายใต้นามของ 'ลมหมุนสีแดง' (赤い旋風 ; akaikaze) โดยสวมหมวกและผ้าคลุมแดงอันเป็นสีประจำตระกูล และคาดหน้ากากสีดำปกปิดหน้าตาด้วยในตอนแรกนั้น จูเลียตไม่มีความทรงจำในค่ำคืนที่บิดาของเธอถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดเลย ทั้งยังไม่ติดใจสงสัยว่าทำไมตนต้องแต่งตัวเป็นชายด้วย และความจริงเกี่ยวกับสายเลือดก็ถูกเปิดเผยในวันเกิดครบสิบหกปีของเธอนั่นเอง ทำให้จูเลียตนึกถึงคืนนั้นได้ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ปรารถนาจะแก้แค้นแต่อย่างใดจูเลียตได้พบกัยโรมิโอครั้งแรกในขณะที่เธอกำลังหนีการตามล่าของพวกเจ้าหน้าที่ ในตอนนั้นเธออยู่ในคราบของลมหมุนสีแดง แต่โรมิโอกลับช่วยเธอเอาไว้ และเมื่อพบกันอีกครั้งที่งานเต้นรำ จูเลียตก็เริ่มมีใจให้กับโรมิโอ ทั้งสองได้แนะนำตัวต่อกันในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไอริส แต่ภายหลังจูเลียตก็ได้รู้ความจริงที่ว่าโรมิโอเป็นบุตรชายของมองตากิวในตอนที่เธอกำลังจะไปช่วยลานสลอตหลังการตายของลานสลอต จูเลียตพยายามหนีจากโรมิโอ แต่ในงานเทศกาลดอกไม้ ทั้งสองก็มอบจุมพิตแก่กันเป็นครั้งแรก จูเลียตเลิกใช้ชีวิตในฐานะโอดิน และมุ่งมั่นจะโค่นล้มอำนาจของมองตากิวเพื่อคืนรอยยิ้มให้แก่ประชาชนชาวเนโอเวโรนาทุกคนเมื่อโรมิโอช่วยจูเลียตไว้ ทั้งสองก็หนีออกจากเนโอเวโรนา ไปยังหมู่บ้านร้าง ทั้งสองสาบานต่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป แต่จูเลียตได้เห็นรากของต้นไม่ใหญ่เอสคาลัส และเธอรู้สึกได้ว่าตนมีอะไรบางอย่างเชื่อมกับต้นไม้นั้น ภายหลังทั้งสองถูกจับกุม จูเลียตหนีไปได้ เธอได้พบกับเฮร์ไมโอนีและได้รู้ถึงอดีตของติบอลท์จูเลียตพบกับโรมิโออีกครั้งที่หมู่บ้านที่โรมิโอพยายามฟื้นฟูขึ้นใหม่ หลังจากนั้นจูเลียตก็กลับสู่เนโอเวโรนาในคราบลมหมุนสีแดงอีกครั้ง แต่ทหารคนหนึ่งยิงธนูไปโดนหมวกของเธอ ตัวตนที่แท้จริงของเธอจึงถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน และประชาชนส่วนมากต่างสนับสนุนจูเลียตในการโค่นอำนาจของมองตากิว
จูเลียต จูเลียตได้รับรู้จากโอฟีเลียว่าเอสคาลัสนั้น จำเป็นต้องได้รับพลังจากสายเลือดของคาปูเล็ต มิฉะนั้นเอสคาลัสจะไม่อาจค้ำจุนโลกนี้ได้อีกต่อไป จูเลียตจึงคิดจะเสียสละตนเองเพื่อรอยยิ้มของทุกคน โดยที่เธอไม่ได้บอกกับใครนอกจากติบอลท์ ภายหลังเมื่อมองตากิวถูกสังหารด้วยฝีมือของเมอร์คิวชิโอแล้ว จูเลียตก็ไปยังเอสคาลัส แต่โรมิโอตามไปขัดขวาง ทั้งสองต่อสู้กันแล้วก็เข้าใจกันในที่สุด แต่จูเลียตไม่อาจขัดขืนโอฟีเลียได้จึงถูกเอสคาลัสห่อหุ้มเอาไว้ โรมิโอที่ตามไปช่วยตะโกนเรียกจูเลียตอย่างสุดเสียง และเมื่อโรมิโอจัดการโอฟีเลียได้แล้ว จูเลียตก็ฟื้นขึ้นมา แต่โรมิโอที่บาดเจ็บสาหัสนั้นสิ้นใจในอ้อมแขนของเธอ จูเลียตจึงใช้พลังที่มีช่วยปกป้องชาวเนโอเวโรนาทุกคน และเธอก็ได้อยู่กับโรมิโอตลอดไปตามคำสาบาน
หัวหน้าตระกูลคาปูเล็ต (
ญี่ปุ่น: キャピュレット
โรมาจิ:
Lord Capulet)บิดาของจูเลียต ถูกสังหารโดยมองตากิวเมื่อสิบสี่ปีก่อน
กลุ่มพันธมิตรคาปูเล็ต
คอร์เดเลีย (
ญี่ปุ่น: コーディリア
โรมาจิ:
Cordelia)เพื่อนที่ดีและเป็นคนคอยดูแลจูเลียตมาตลอดตั้งแต่เด็ก เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากการสังหารล้างตระกูลคาปูเล็ตเมื่อสิบสี่ปีก่อน ญาติของเธอถูกสังหารไปจนหมด เหตุผลที่จูเลียตไว้ผมยาวก็เป็นเพราะคอร์เดเลียชอบ ภายหลังได้แต่งงานกับเบนโวลิโอ เธอมอบช่อดอกไม้แต่งงานให้กับจูเลียตและปรารถนาให้ทั้งโรมิโอและจูเลียตได้มีความสุข ในตอนท้ายของเรื่องเธอมีบุตรกับเบนโวลิโอ ส่วนชื่อของคอร์เดเลียนั้น น่าจะมาจากบทประพันธ์ของเชกสเปียร์เรื่อง
คิงเลียร์ นั่นเองคอนราด (
ญี่ปุ่น: コンラッド
โรมาจิ:
Conrad)คอนราดเป็นผู้ที่ช่วยจูเลียตและคอร์เดเลียออกมาเมื่อสิบสี่ปีก่อน เป็นผู้คอยปกป้องดูแลจูเลียตจนกระทั่งเมื่อเธอมีอายุสิบหกปี เขาเองที่เป็นคนเปิดเผยเรื่องสายเลือดของเธอและมอบดาบประจำตระกูลให้ฟรานซิสโก (
ญี่ปุ่น: フランシスコ
โรมาจิ:
Francisco)เป็นเพื่อนสนิทกันกับคิวริโอ เป็นคนฉลาดและเชี่ยวชาญอาวุธโจมตีระยะไกลโดยเฉพาะธนู แอบติดต่อกับติบอลท์อย่างลับๆเพื่อขอให้ช่วยเหลือจูเลียต ทั้งยังยอมรับความรักของโรมิโอกับจูเลียตด้วย แม้คิวริโอจะสงสัยความรู้สึกที่ฟรานซิสโกมีต่อจูเลียต แต่ฟรานซิสโกยืนยันหนักแน่นว่าเป็นเพียงความภักดีต่อคาปูเล็ตเท่านั้น ในตอนจบเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภาในเนโอเวโรนาคิวริโอ (
ญี่ปุ่น: キュリオ
โรมาจิ:
Curio)เพื่อนสนิทของฟรานซิสโก เชี่ยวชาญวิชาดาบ เป็นคนที่สอนดาบให้กับจูเลียต ดวงตาข้างขวาบอดเพราะในอดีตได้ช่วยเหลือจูเลียตไว้จากพวกคาราบินีรี่ ในตอนจบได้มีร้านขายผลไม้เป็นของตัวเองอันโตนิโอ (
ญี่ปุ่น: アントニオ
โรมาจิ:
Antonio)หลานชายของคอนราด เป็นผู้คอยช่วยเหลือจูเลียตหรือลมหมุนสีแดงอยู่เสมอ บางทีก็ช่วยงานในโรงละครของวิลเลียมด้วย อันโตนิโอไม่รู้ว่าที่จริงแล้วจูเลียตเป็นผู้หญิงจนกระทั่งความจริงถูกเปิดเผยในวันเกิดครบสิบหกปีของจูเลียตติบอลท์ (
ญี่ปุ่น: ティボルト
โรมาจิ:
Tybalt)ติบอลท์เป็นคนที่มักปรากฏตัวอย่างลึกลับและคอยช่วยเหลือคาปูเล็ตเสมอ ไม่เคยมีความลังเลในการสังหาร เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ตัวจริงของจูเลียตก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผย ภายหลังเขาได้เล่าเรื่องของตนเองให้จูเลียตได้รับรุ้ว่าอันที่จริงแล้วเขาเป็นลูกนอกสมรสของมองตากิว จึงนับว่าเป็นพี่น้องรว่มบิดากับโรมิโอ มารดาของติบอลท์เป็นหนึ่งในตระกูลคาปูเล็ต แต่ถูกมองตากิวหลอกใช้เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับเอสคาลัส ภายหลังเมื่อมองตากิวไปสมรสกับเลดี้พอร์เทีย มารดาของติบอลท์ก็ส่งเขาไปอยู่กับตระกูลคามิโลในตอนหลัง ติบอลท์เป็นคนแรกที่รู้เรื่องโชคชะตาอันแสนเศร้าของจูเลียตที่ต้องมอบพลังให้เอสคาลัส และเป็นคนแรกที่ไปพบมองตากิวก่อนที่จูเลียตและพรรคพวกจะไปถึง เขาเปิดตัวตนที่แท้จริงแก่มองตากิวและถามหาเอสคาลัสเพื่อช่วยเหลือจูเลียต แต่ยังไม่ทันได้คำตอบโรมิโอก็เข้ามาเสียก่อน และเมื่อเมอร์คิวชิโอสังหารมองตากิวแล้ว ติบอลท์ก็ได้แต่ขว้างดาบไปปักตราประจำตระกูลมองตากิวที่เก้าอี้เท่านั้นติบอลท์เปิดเผยตัวเองแก่โรมิโอเมื่อโรมิโอไปเฝ้าดูศพของบิดา ทั้งยังบอกเรื่องโชคชะตาของจูเลียตด้วย ในตอนจบติบอลท์ได้พาเด็กๆที่น่าจะเป็นน้องของเพทรูชิโอขี่ชิเอโลริวบะของโรมิโอ และบอกกับเด็กๆว่าชิเอโล่นั้นเป็นของน้องชายของเขาเองเอมิเลีย (
ญี่ปุ่น: エミリア
โรมาจิ:
Emilia)นักแสดงในโรงละครของวิลเลียมและเป็นเพื่อนที่ดีต่อจูเลียต แต่ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของจูเลียต คิดว่าจูเลียตคือเด็กผู้ชายที่ชื่อโอดินมาตลอด เป็นคนชวนจูเลียตไปงานเต้นรำ ชื่อของเธอน่าจะมาจากบทประพันธ์ของเชกสเปียร์เรื่อง
โอเทลโลวิลเลียม (
ญี่ปุ่น: ウィリアム
โรมาจิ:
William)กวีตกอับชื่อเล่นว่า วิลลี่ คนนี้ก็คือตัวละครล้อเลียน
วิลเลียม เชกสเปียร์นั่นเอง โรงละครของวิลเลียมนั้นเป็นที่พักและที่ซ่อนตัวของจูเลียตและพรรคพวก ที่วิลเลียมยอมให้คนกลุ่มนี้อาศัยอยู่พราะเขาต้องการจะเขียนบทละครที่เป็นโศกนาฏกรรมนองเลือดขึ้นมาแอเรียล (
ญี่ปุ่น: エアリエル
โรมาจิ:
Ariel)มารดาของวิลเลียม เพื่อนเก่าของคอนราด และเป็นผู้ที่รู้ตัวตนของจูเลียตด้วย เป็นคนเสนอที่พักในแมนทัวให้กับจูเลียตที่หนีการตามล่าของมองตากิวอยู่บัลทาซาร์ (
ญี่ปุ่น: バルサザー
โรมาจิ:
Balthazar)คนรับใช้ของเอเรียลในแมนทัวเรแกน (
ญี่ปุ่น: リーガン
โรมาจิ:
Regan)หลานสาวของบัลทาซาร์ลานสลอต (
ญี่ปุ่น: ランスロット
โรมาจิ:
Lancelot)แพทย์ผู้ใจดีและเสียสละตนเองเพื่อช่วยจูเลียตด้วยการแต่งตัวเป็นลมหมุนสีแดงแล้วหลอกล่อพวกทหารให้เผาตนเองเสีย โดยฝากความหวังที่จะช่วยชาวเนโอเวโรนาไว้กับจูเลียต
มองตากิว
โรมิโอ (
ญี่ปุ่น: ロミオ
โรมาจิ:
Romeo)
โรมิโอ ชื่อเต็มคือ โรมิโอ คานโดเร วาน เดอ มองตากิว (Romeo Candore Van de Montague) บุตรชายของลาเออร์เทส มองตากิวและเลดี้พอร์เทีย เป็นผู้ที่จะสืบทอดสมบัติและตำแหน่งผู้ครองเมืองต่อจากบิดา นอกจากนี้ยังเป็นน้องชายต่างมารดาของติบอลท์ด้วย อุปนิสัยของโรมิโอนั้นแตกต่างจากบิดาอย่างมาก โรมิโอเป็นคนอ่อนโยน จิตใจดี โรมิโอมีริวบะเป็นของตนเองชื่อว่าชิเอโล ซึ่งภายหลังได้ปล่อยไป และติบอลท์ไปพบเข้าในตอนจบ เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง โรมิโอจำเป็นต้องหมั้นกับเฮอร์ไมโอนี หญิงสาวในตระกูลผู้ดีคนหนึ่ง แม้ว่าโรมิโอจะมีใจชอบพอกับจูเลียตแล้วก็ตาม ภายหลังแม้เขาได้รู้ว่าจูเลียตเป็นบุตรีของคาปูเล็ต โรมิโอก็ยังคงไม่สามารถห้ามความรู้สึกที่มีต่อจูเลียตได้หลังจากเบนโวลิโอบอกว่าครอบครัวของเขาจะถูกขับไล่ออกจากเนโอเวโรนาและโรมิโอได้เห็นติบอลท์กอดจูเลียตนั้น เขาก็เริ่มหมดหวังในความรัก และเมื่อได้พบจูเลียตอีกครั้งเขาเองก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาใหม่ ทั้งสองหนีออกจากเนโอเวโรนาด้วยกัน สาบานรักต่อกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่าง
สงบสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูกจับในที่สุด
โรมิโอถูกเนรเทศไปยังเหมืองแกรนเดีย โรมิโอได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากที่นี่ ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เหมืองถล่มอย่างรุนแรง โรมิโอก็ได้ปลดปล่อยให้ชาวเหมืองทุกคนเป็นอิสระ และพาทุกคนไปช่วยกันฟื้นฟูหมู่บ้านที่เขาและจูเลียตเคยมาอาศัยอยู่ ที่นี่เองที่เขาได้พบกับจูเลียตอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ข่าวคราวความวุ่นวายในเนโอเวโรนา โรมิโอตัดสินใจกลับไปยังที่นั่นเพื่อเจรจากับบิดา โรมิโอได้ต่อสู้กับเมอร์คิวชิโอ เขาได้พบจูเลียตแต่ก็ได้เพียงกอดเธอแล้วไปหามารดาเพื่อขออภัยที่จะต่อสู้กับบิดา โรมิโอไปหาบิดาและพบว่าติบอลท์ก็อยู่ที่นั่น เขาเรียกบิดาของตนเองว่าเจ้าเมืองและเข้าประดาบกัน หลังจากบิดาของเขาถูกสังหาร โรมิโอคุกเข่าต่อหน้าจูเลียตและยกย่องเธอในฐานะเจ้าเมืองคนใหม่ ส่วนเขาเองตั้งใจว่าจะกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้งหนึ่งโรมิโอได้รู้ว่าติบอลท์เป็นพี่ชายและรู้ความจริงเกี่ยวกับเอสคาลัส เขาจึงไปช่วยจูเลียตและได้ต่อสู้กับจูเลียต สุดท้ายโรมิโอได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้กับโอฟีเลียเและสิ้นใจในอ้อมกอดของจูเลียตนั่นเองหัวหน้าตระกูลมองตากิว (
ญี่ปุ่น: モンタギュー
โรมาจิ:
Lord Montague)ชื่อเต็มคือ ลาเออร์เทส มองตากิว หลังจากยึดอำนาจมาจากคาปูเล็ตแล้วก็ขึ้นเป็นเจ้าเมืองคนใหม่และปกครองเมืองอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปรานี เขาอ้างว่ายึดอำนาจจากคาปูเล็ตเพราะมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้น มองตากิวปฏิบัติต่อโรมิโออย่างเย็นชาและมองว่าบุตรชายมีไว้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น เขาเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยมากที่รู้เรื่องของเอสคาลัสความเป็นมาที่แท้จริงของมองตากิวมีเพียงติบอลท์เท่านั้นที่รู้และเขาได้เล่าให้จูเลียตฟัง มองตากิวนั้นเป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งกับชายในตระกูลคาปูเล็ต ก่อนสิ้นใจมารดาของเขาได้บอกความปรารถนาว่าอยากให้ลาเออร์เทสได้อยู่อย่างชนชั้นสูง เมื่อเขาได้รับรู้ก็เคียดแค้นตระกูลคาปูเล็ตและมุ่งมาดจะยึดอำนาจเจ้าเมืองเป็นของตนให้ได้ ในช่วงนั้นเองที่เขาได้ไปอยู่ในการดูแลของตระกูลมองตากิว เมื่อเติบโตขึ้นเขาก็วางยาพิษในอาหารของผู้ที่ชุบเลี้ยงมาและกลายเป็นหัวหน้าตระกูล มองตากิวได้พบมารดาของติบอลท์และหลอกนางเพื่อล้วงข้อมูลของคาปูเล็ตและเอสคาลัส ก่อนจะทิ้งนางไปสมรสกับเลดี้พอร์เทียมารดาของโรมิโอหลังจากมองตากิวรู้ว่าบุตรชายมีใจให้จูเลียต มองตากิวก็เนรเทศโรมิโอไปยังเหมืองแกรนเดีย และรับเมอร์คิวชิโอมาเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนจะสังหารไททัสโดยจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุในตอนท้าย มองตากิวได้ต่อสู้กับติบอลท์และโรมิโอ และเมื่อปักดาบลงหน้าจูเลียตแล้วก็ถูกเมอร์คิวชิโอใช้ดาบแทงจากด้านหลังพอร์เทีย (
ญี่ปุ่น: ポーシア
โรมาจิ:
Lady Portia)มารดาของโรมิโอ หนีไปอยู่ที่สำนักแม่ชีตั้งแต่โรมิโอยังเด็ก เพราะไม่อยากมีส่วนร่วมในความทะเยอทะยานของสามี เนื่องจากเธอเป็นสตรีที่อ่อนโยนและมีสติปัญญา เธอเป็นคนเดียวที่ยิ้มต้อนรับโรมิโอเสมอ โรมิโอจึงมักมาเยี่ยมเธอบ่อยๆพอร์เทียเป็นคนยืนยันว่าจูเลียตเป็นบุตรีของคาปูเล็ตและบอกให้โรมิโอลืมเธอเสีย แต่โรมิโอทำไม่ได้ เธอยังช่วยดูแลจูเลียตที่บาดเจ็บหลังถูกทหารของมองตากิวรุกรานอีกด้วย ในตอนท้ายเมื่อโรมิโอจะไปหามองตากิว โรมิโอก็ได้มาขอโทษเธอด้วย
กลุ่มพันธมิตรมองตากิว
เบนโวลิโอ (
ญี่ปุ่น: ペンヴォーリオ
โรมาจิ:
Benvolio)เพื่อนของโรมิโอ เป็นบุตรชายนายกเทศมนตรีเนโอเวโรนา เป็นห่วงโรมิโอเสมอ ภายหลังถูกลดชั้นเป็นเพียงคนธรรมดาและได้รับความช่วยเหลือจากจูเลียต จึงได้ใกล้คิดกับคอร์เดเลียและสมรสกันในภายหลังเมอร์คิวชิโอ (
ญี่ปุ่น: マキューシオ
โรมาจิ:
Mercutio)ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ชอบดูถูกคนธรรมดา ภายหลังได้เป็นบุตรบุญธรรมของมองตากิว เคารพยำเกรงมองตากิวมากแม้ว่าจะเห็นบิดาแท้ๆของตนถูกมองตากิวสังหารต่อหน้าต่อตา ในตอนท้ายเป็นผู้สังหารมองตากิวและมีอาการผิดปกติทางจิตไททัส (
ญี่ปุ่น: タイタス
โรมาจิ:
Titus)บิดาแท้ๆของเมอร์คิวชิโอ ถูกมองตากิวสังหาร และจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุวิตโตลิโอ (
ญี่ปุ่น: グィシトーリオ
โรมาจิ:
Vittorio)บิดาของเบนโวลิโอ หัวหน้าตระกูลเฟรสโกบัลดิ (Frescobaldi) เป็นเพื่อนเก่าของคอนราด ถูกลดชั้นเป็นคนธรรมดาและถูกลอบสังหารแต่ไม่สำเร็จเฮอร์ไมโอนี (
ญี่ปุ่น: ハーマイオニ
โรมาจิ:
Hermione)สตรีในตระกูลสูงที่หมั้นหมายกับโรมิโอเพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง แต่เธอรักโรมิโอจากใจจริงแม้รู้ว่าโรมิโอมีคนอื่นอยู่ในใจแล้วก็ตาม เมื่อโรมิโอถูกเนรเทศ เฮอร์ไมโอนีพยายามเกลี้ยกล่อมมองตากิวให้เรียกเขากลับมายังเนโอเวโรนา แต่เมื่อถูกปฏิเสธ เธอก็ออกไปตามหาโรมิโอเอง และได้พบกับจูเลียต เฮอร์ไมโอนีอิจฉาและพยายามทำร้ายจูเลียต แต่เมื่อจูเลียตร้องไห้แสดงอาการดีใจเมื่อรู้ว่าโรมิโอปลอดภัยดี เฮอร์ไมโอนีก็สงบลง ในตอนจบเธอยืนถือดอกกุหลาบและดอกไอริส และภาวนาให้ตนเองมีความสุขเหมือนโรมิโอและจูเลียตบ้าง
ตัวละครอื่นๆ
โอฟีเลีย (
ญี่ปุ่น: オフィーリア
โรมาจิ:
Ophelia)โอฟีเลียเป็นสตรีลึกลับที่คอยดูแลเอสคาลัส มีหน้าตาเศร้าหมองและสัญลักษณ์บนใบหน้า เป็นคนบอกจูเลียตว่าเอสคาลัสต้องการพลังของคาปูเล็ต ซึ่งอันที่จริงแล้ว โอฟีเลียเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ต้นนี้นั่นเอง ในตอนท้ายเธอเป็นคนทำให้โรมิโอบาดเจ็บสาหัสและถูกกำจัดโดยโรมิโอคามิโอ (
ญี่ปุ่น: カミロ
โรมาจิ:
Camilo)สหายของคอนราดที่ทรยศโดยการบอกที่ซ่อนของคาปูเล็ตให้กับมองตากิว เป็นคนที่รับดูแลติบอลท์เพทรูคิโอ (
ญี่ปุ่น: ペトルーキオ
โรมาจิ:
Petruchio)เด็กชายในเหมืองที่โรมิโอไปช่วยงาน เป็นเพื่อนที่ดีต่อโรมิโอ ถูกส่งไปที่เหมืองเพราะขโมยขนมปังไปช่วยครอบครัว เสียชีวิตจากอาการป่วยและฝากฝังโรมิโอให้ช่วยดูแลน้องๆด้วย ซึ่งโรมิโอได้ฝากฝังติบอลท์อีกทีหนึ่งโจวานนี่ (
ญี่ปุ่น: ジョバンニ
โรมาจิ:
Giovanni)คนงานในเหมือง ร่างกายกำยำ ชื่นชมความฝันของโรมิโอที่จะสร้างสถานที่ที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุขชายแก่ปริศนาชายแก่ลึกลับที่ชอบสูบไปป์ น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับต้นไม้ใหญ่ โรมิโอและจูเลียตได้พบกับเขาครั้งแรกที่หมู่บ้านร้าง และโรมิโอพบเขาอีกครั้งในช่วงที่กำลังฟื้นฟูหมู่บ้าน มอบเมล็ดพืชให้แก่โรมิโอ และทิ้งคำพูดปริศนาไว้